• SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แม้ยังมีแรงส่งจากการบริโภคภาคเอกชนและท่องเที่ยว คาดว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ เนื่องจาก 1) เป็นการรักษาสถานะความเป็นกลางของนโยบายการเงิน (Neutral stance) จากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว (Neutral rate) ลดต่ำลงจากเดิม และ 2) มติ กนง. ล่าสุดยังออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ต่อเนื่อง *** มองกรอบเงินบาทอยู่ที่ 35.80 - 36.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับสิ้นปีนี้ เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าเล็กน้อยในกรอบ 34.00-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
Home EKH ปันผล 'หุ้น-เงินสด' 40 : 1 มั่นใจปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 7%
EKH ปันผล 'หุ้น-เงินสด' 40 : 1 มั่นใจปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 7%

EKH ปันผล 'หุ้น-เงินสด' 40 : 1 มั่นใจปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 7%

ผู้ถือหุ้น บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) กดปุ่มลงมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นอัตราส่วน 40 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล พร้อมจ่ายเงินสดอีก 0.30 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.3125 บาท กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ฟาก “นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร” ระบุเดินหน้าขยายการลงทุนด้านสุขภาพต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 7%

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลสำหรับงวดปี 2566 ให้กับผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เป็นหุ้นและเงินสด โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 40 หุ้นสามัญต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นการจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 0.0125 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดปันผล ในอัตรา 0.3000 บาทต่อหุ้น รวมเป็นปันผล 0.3125 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นไม่เกิน 221.93 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567

สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทฯ ในปีนี้ เชื่อว่ายังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งการเติบโตมาจากธุรกิจการรักษาพยาบาลทั่วไปในโรงพยาบาล อาทิ ศูนย์ฉุกเฉิน, ศูนย์กุมารเวช, ศูนย์สูติ-นรีเวช และศูนย์ต่าง ๆ ที่ยังมีจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) มารับบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น รวมถึงศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) ยังช่วยสนับสนุนการเติบโต เนื่องจากปัจจุบันมีคนไข้เข้ามาปรึกษาและใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนไข้จากจีนเนื่องจากรัฐบาลจีนสนับสนุนให้ประชากรมีทายาทเพิ่มทำให้มีแนวโน้มลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการศูนย์ IVF มากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 7%

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสที่จะขยายการให้บริการด้านสุขภาพต่าง ๆ โดยร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะโรคเฉพาะทาง และโรคที่มีการรักษาแบบซับซ้อน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้รายได้และกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต

“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจ และมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักในทุกรูปแบบกับบริษัทที่มีธุรกิจและผลการดำเนินงานที่ดี เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว และในปีนี้บริษัทฯ ยังเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานจะยังคงสดใส ส่วนผลการดำเนินงานเชื่อว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 7%” นายแพทย์อำนาจ กล่าวในที่สุด